งานวิจัยชิ้นใหม่ของออมเดีย (Omdia)ที่อาศัยข้อมูลจากพลัมรีเสิร์ช (PlumResearch)แสดงให้เห็นว่า คอนเทนต์สร้างเองของเน็ตฟลิกซ์ (Netflix Original) กลายเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของยักษ์ใหญ่แห่งวงการวิดีโอสตรีมมิงรายนี้ ในการสร้างเส้นทางของตัวเองไปทั่วโลกทั้งในตลาดสหรัฐและประเทศที่สำคัญอื่น ๆ เมื่อต้องเผชิญกับการแข่งขันจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเจ้าของคอนเทนต์รายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลกอย่างสตูดิโอต่าง ๆ ในสหรัฐ หรือบริษัทในพื้นที่ต่าง ๆ ที่เริ่มตั้งมั่นเข้ามาเรื่อย ๆคำพูดจาก เว็บสล็อต777
ในตลาดที่ใหญ่ที่สุดอย่าง สหรัฐ ผู้ชมใช้เวลา 35.6% ไปกับคอนเทนต์สร้างเองของเน็กฟลิกซ์ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ จากเวลาทั้งหมด 1.48 หมื่นล้านชั่วโมงในไตรมาสแรก ส่วนในโปแลนด์ คอนเทนต์สร้างเองของเน็ตฟลิกซ์มีส่วนแบ่งชั่วโมงรับชมมากที่สุดเกือบ 40% ขณะที่ ญี่ปุ่นอยู่ที่ 20.6% และเกาหลีใต้ 25.4%
ส่องรายได้ Netflix ไทย 1 ปี ก้าวกระโดดโต 10 เท่า กำไรเพิ่ม +1,000%
สิ้นสุดสายแชร์ "Netflix" ประกาศ คนละบ้านต้องเสียเพิ่ม 99 บาท
แม้ตัวเลขเหล่านี้จะดูเหมือนไม่มากเท่าที่ควร เมื่อพิจารณาจากเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่เน็ตฟลิกซ์ใช้ในการสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง แต่ออมเดียคาดว่า คอนเทนต์สร้างเองของเน็ตฟลิกซ์ส่วนใหญ่ผลิตขึ้นในสหรัฐที่ 403 เรื่อง จากทั้งหมด 935 เรื่องที่ออกฉายในปี 2565
เมื่อพิจารณาจากความพยายามในการลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง ค่อนข้างแปลกใจที่ส่วนแบ่งผู้ชมยังอยู่ในระดับต่ำ”ทิม เวสต์คอตต์ (Tim Westcott) นักวิเคราะห์อาวุโสของออมเดีย ระบุ
หรืออาจจะมีสาเหตุจากคุณภาพของคอนเทนต์ที่เน็ตฟลิกซ์ไม่ได้สร้างเอง โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ฉายในโรง รวมถึงซีรีส์ทางโทรทัศน์ที่เน็ตฟลิกซ์ซื้อลิขสิทธิ์มา ภาพยนตร์อย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ และซีรีส์อย่างบรู๊คลิน ไนน์ไนน์ (Brooklyn Nine-Nine)และริค แอนด์ มอร์ตี้ (Rick and Morty)คือคอนเทนต์ยอดนิยมในประเทศอื่น ๆ เช่น อิตาลีและเยอรมนี
ขณะเดียวกันงานวิจัยนี้ยังแสดงให้เห็นภาพที่แตกต่างของความสำเร็จที่เน็ตฟลิกซ์มีร่วมกับผู้ผลิตคอนเทนต์ในระดับท้องถิ่น โดยผู้ชมคอนเทนต์สร้างเองของเน็ตฟลิกซ์ในเกาหลีใต้เกือบ 68% ใช้เวลาไปกับคอนเทนต์ที่ผลิตโดยผู้ผลิตในประเทศ ตัวเลขของสหรัฐอยู่ในระดับสูงเช่นกันที่ 61.4% ทิ้งห่างลำดับถัดมาอย่างญี่ปุ่นค่อนข้างมาก ส่วนตัวเลขในเยอรมนีนั้นอยู่เพียงแค่ 2.7%
เหตุผลอีกข้อหนึ่งคือความหลากหลายของคอนเทนต์ เน็กฟลิกซ์แม้จะผลิตคอนเทนต์เองตั้งแต่ปี 2555 แต่จำนวนคอนเทนต์ยังมีไม่เท่าผู้ผลิตอย่างวอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney) วอร์เนอร์บราเธอส์ดิสคัฟเวอรี (WB Discovery) หรือพาราเมาต์ (Paramount)