ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ข้อมูลหิมะและน้ำแข็งแห่งชาติสหรัฐฯ ยืนยันว่า 3 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่น้ำแข็งในทะเลรอบแอนตาร์กติกามีปริมาณน้อยที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีการตรวจวัดด้วยดาวเทียมในปี 1979
นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า การที่ปริมาณน้ำแข็งต่ำมากอีกปีนั้นเป็นหลักฐานที่แสดงว่าน้ำแข็งในทะเลของแอนตาร์กติกามีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันและส่งผลระยะยาว
ปกติ น้ำแข็งในทะเลรอบแอนตาร์กติกาจะมีปริมาณต่ำที่สุดในช่วงพีคของฤดูร้อน ซึ่งตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
นักวิทย์พบฟอสซิลสัตว์ประหลาดโบราณ รูปร่างคล้าย “มังกร”
สำรวจใต้ทะเลใกล้ชิลี พบสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยเห็นกว่า 100 สายพันธุ์
ช็อกทั้งวงการ! ฟอสซิลโบราณชื่อดังความจริงแล้วเป็นแค่ “ภาพสลัก”
แต่เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกาเฉลี่ย 5 วัน ลดลงอยู่ที่ 1.99 ล้านตารางกิโลเมตร และวันที่ 21 ก.พ.อยู่ที่ 1.98 ล้านตารางกิโลเมตร ขณะที่สถิติต่ำสุดอยู่ที่ 1.78 ล้านตารางกิโลเมตร เมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว
น้ำแข็งในทะเลรอบแอนตาร์กติกาจะมีปริมาณมากที่สุดในเดือนก.ย. แต่ปีที่แล้ว ปริมาณน้ำแข็งในช่วงเวลาดังกล่าวก็ทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นักวิทยาศาสตร์ตกใจอย่างมากที่น้ำแข็งกลับคืนมาน้อยลงขนาดนั้น ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ปริมาณน้ำแข็งดูจะกลับคืนมาเล็กน้อยในเดือนธันวาคม แต่หลังจากนั้นก็ลดลงไปอีกจนอยู่ในระดับปัจจุบัน
ทั้งนี้ ยังไม่มีวิธีตรวจวัดที่เชื่อถือได้ว่าน้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกาหนาแค่ไหน แต่อาเรียน พูริค (Arian Purich) นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศที่เชี่ยวชาญทวีปแอนตาร์กติกและมหาสมุทรใต้ จากมหาวิทยาลัยโมนาชของออสเตรเลียระบุว่า เป็นไปได้ที่น้ำแข็งที่กลับคืนมานั้นจะบางกว่าปกติ
นักวิทยาศาสตร์ยังคงหาคำตอบว่า อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ปริมาณน้ำแข็งในทะเลลดลง แต่พวกเขากังวลว่าภาวะโลกร้อนอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง โดยเฉพาะการที่มหาสมุทรใต้ที่ล้อมรอบทวีปแอนตาร์กติกา มีอุณหภูมิสูงขึ้น
น้ำแข็งในทะเลช่วยสะท้อนพลังงานจากดวงอาทิตย์ หมายความว่าการที่น้ำแข็งน้อยลงอาจทำให้มหาสมุทรอุ่นขึ้นระบบนิเวศวิทยาของแอนตาร์กติกายังผูกติดกับน้ำแข็งในทะเล ตั้งแต่การเกิดของไฟโตแพลงก์ตอนที่สามารถกำจัดคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศได้ ไปจนถึงการเป็นที่ขยายพันธุ์ของนกเพนกวิน
งานวิจัยปีที่แล้วของพูริคระบุว่า น้ำแข็งในทะเลแอนตาร์กติกาอาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดจากอุณหภูมิของมหาสมุทรใต้ผิวน้ำลงไป 100 เมตร สูงขึ้น
ในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Climate เดือนนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงปริมาณของน้ำแข็งในทะเลและจุดที่เกิดในแต่ละปี ในสองช่วงเวลาคือ ระหว่างปี 1979 – 2006 และปี 2007 – 2022 พบว่า ปริมาณน้ำแข็งในทะเลมีการผันแปรหรือผิดปกติมากขึ้นในช่วงหลัง และสรุปว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันและส่งผลระยะยาวเกิดขึ้นในแอนตาร์กติกา แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะเหตุใด
นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการหายไปของน้ำแข็งในทะเลเป็นแค่หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายๆ อย่าง ที่พบในทวีปแอนตาร์กติกาที่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบทั่วทั้งโลก
นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเรียกร้องกันมากขึ้นให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงในทวีปแอนตาร์กติกามากกว่านี้ พร้อมกับคร่ำครวญถึงการขาดข้อมูลเปรียบเทียบจากบนและรอบๆ ทวีป
เพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋ ครอบครองปรปักษ์ เครียดคิดสั้น-ผูกคอลาโลก! คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ผลบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5 แมนซิตี้ ถล่ม ลูตัน 6-2 ลิ่วรอบ 8 ทีม
พายุฤดูร้อน! ประกาศเตือนฉบับที่ 8 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง