การเลือกตั้งทั่วไป จะมาถึงวันที่ 14 พ.ค. คนกีฬา กระโดดเข้าเวทีการเมืองหลายราย อย่างเช่น สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่โอลิมปิกเกมส์ พรรคพลังประชารัฐ, “ฮาย” ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ลาออกประธานสโมสรลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นรองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ฯลฯ
เล่นการเมือง ต้องเสียสละ ต้องแลกด้วยหลายอย่าง ก็ต้องชื่นชมที่เสนอตัวมาให้ประชาชนได้เลือก หาผู้แทนที่เหมาะสมที่สุด
ขณะเดียวกัน เมื่อมีคนอยากลุยการเมือง แต่ก็มีคนที่จะบอกว่า “เข็ด” ครั้งเดียวก็เกินพอก็ว่าได้
เลือกตั้งหนก่อน ปี 2562 มีหนึ่งในนักเตะดรีมทีม กระโดดลงเวทีเลือกตั้ง คือ “น้าชู” ชูเกียรติ หนูสลุง นักเตะร่วมรุ่น “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ตะวัน (ธชตวัน) ศรีปาน โดยอยู่พรรคพลังท้องถิ่นไท ที่ตอนนั้น นายชัชวาลล์ คงอุดม เป็นหัวหน้าพรรค จากการชักชวนของผู้ใหญ่ทีมมาแชร์ ชัยภูมิ
น้าชู ลงสมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ชัยภูมิ แต่ผลออกมา สู้กับรุ่นใหญ่ไม่ไหว แม้จะโด่งดังในพื้นที่ ตอนนั้นเป็นทำทีม มาแชร์ ชัยภูมิ อยู่ด้วย แต่ได้คะแนนเสียงไม่ถึงพันคะแนน ส่วนคนที่ได้รับเลือกตั้ง โกยไป 3 หมื่นกว่าคะแนน
น้าชู เคยเล่าให้ “กีฬาเดลินิวส์” หลังจบเลือกตั้งว่า เขตที่ลงมีผู้ลงสมัครเยอะ เกือบ 40 พรรค คะแนนถ้าไม่ตกกับพรรคใหญ่ ก็เลยเฉลี่ยๆ กันไป ยอมรับว่า เป็นสนามที่ไม่ถนัด ไม่เคย ไม่มีประสบการณ์ รู้อยู่แล้วว่ายากที่จะเบียดกับเจ้าของพื้นที่ หรือพรรคใหญ่ๆ อย่างการหาเสียง อภิปรายอะไรก็ไม่ถนัด เน้นหาเสียงทางโลกโซเชียล โพสต์เฟซบุ๊ก นอกจากนี้ ยังต้องเอาเวลาไปทำทีมฟุตบอล จึงมีเวลาเดินหาเสียงไม่มาก
“บางอย่างก็งงๆ อย่างป้ายหาเสียงนี่ กกต. เขากำหนดมาว่าต้องกี่ป้ายๆ ผมใช้งบประมาณพรรค ทำไปตามที่กติกา ก็ยังดูว่าไม่ค่อยทั่ว แต่เอ๊ะ พอดูพรรคอื่น ทำไมรู้สึกเห็นถี่ๆ กว่า หรือเราไปตรงบริเวณที่มีป้ายเยอะเองก็ไม่รู้” น้าชู กล่าวไป หัวเราะอ่อนๆ ไป
“ก่อนจะมาตัดสินใจสมัคร ผมก็ติดตามการเมืองนะ เมื่อผู้ใหญ่ชักชวน เราคิดว่า เอ้า ลองดูสักตั้ง”
“แต่ยอมรับเลยว่า เมื่อกระโดดลงมาลุยสนามจริงๆ เราไม่ชอบกับบทบาทแบบนี้ ทำให้ไม่รู้สึกไม่ติดใจอะไรเลย ก็คงไม่เอาแล้ว แค่ครั้งเดียวพอ ถือว่าเป็นประสบการณ์ในชีวิต”คำพูดจาก สล็อตเว็บไซต์โดยตรง
นั่นคือข้อความที่ ชูเกียรติ หนูสลุง เคยคุยกับ “กีฬาเดลินิวส์”
ล่าสุดจากการสอบถามถึงการเลือกตั้ง 66 “น้าชู” ก็ยังยืนยันว่า “ไม่เอาแล้ว”
เมื่อถามถึงปัจจัยที่ทำให้แพ้ขาด ก็เพราะกำลังกระสุนของตัวเองก็ไม่ค่อยมี ชุดสนับสนุนก็มาไม่เยอะ นอกจากนี้ก็ต้องยอมรับว่า คนอีสานมักมีพรรคในใจอยู่แล้ว ไปเจาะ ไปแย้มยาก
ถามว่าการลงเวทีการเมืองเหนื่อยไหม น้าชู บอกว่า ไม่เหนื่อย จริงๆ เดินแค่วันเดียว สนุกดี ชาวบ้านรู้จักอยู่แล้ว ทักทายกันดี แต่อย่างที่บอก ส่วนใหญ่ก็มีพรรคในใจแล้ว ขณะที่เรื่องการขึ้นเวทีปราศรัย ไม่มีเลย ไม่ได้จัดไว้ และก็ไม่ถนัด
“มันไม่ใช่งานที่เราชอบ ไม่ถนัด เราเกิดมาเล่นฟุตบอล ไม่เหมาะกับนักการเมือง” น้าชู กล่าว
แข้งดรีมทีม ยังทิ้งท้ายถึงเส้นทางลูกหนัง หลังจาก มาแชร์ ชัยภูมิ ตกชั้นจากไทยลีก 3 เมื่อปีก่อน จึงตัดสินใจขอเว้นวรรคไปก่อน เพราะเรื่องการเงินไม่มั่นคง ไม่รู้ว่าจะได้จาก สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เท่าไหร่กันแน่ แต่ยืนยันว่าไม่ทิ้ง รอจังหวะดีๆ จะกลับมาลุยกันอีกครั้ง.
ขอบคุณแฟ้มภาพจากปี 2562 จาก ชูเกียรติ หนูสลุง